รู้จักกับ One-Person Business เทรนด์การทำงานใหม่ในโลก Digital

เรียนวิธีการสร้าง One-Person Business ด้วยโมเดลของ Dan Koe สร้างรายได้ 1 ล้านบาทภายในสามปีด้วย Digital Business ที่ใครๆก็ทำได้

รู้จักกับ One-Person Business เทรนด์การทำงานใหม่ในโลก Digital
Duck Philosophy - Turn your skills into profitable one-person business

เมื่อสองอาทิตย์ก่อน แอดนั่งเล่น IG บังเอิญเจอ post ของ Dan Koe

คืนวันศุกร์ Dan Koe มี followers 824K ผ่านไปสามวัน เพิ่มขึ้นเป็น 1M คน เป็นครั้งแรกที่แอดเห็น massive growth ของคนใน IG แบบชัดๆขนาดนี้ ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง 555+

และคนๆนั้นไม่ใช่ดารา ไม่ได้จ่ายเงินซื้อยอด likes/ followers โตแบบ organic 99%

Dan Koe Pioneering the future of work
Dan Koe IG

ทักษะที่ Dan Koe มีและเก่งมากแบบสุดคือ effective writing + thinking โดยหัวข้อที่เค้าสอนคือ The Future of Work through philosophy, curiosity & the internet

ตอน Dan Koe มีผู้ติดตาม 200K คน รายได้ต่อเดือนเค้าอยู่ที่ $20,000 หรือประมาณ 7 แสนบาท มีคนประเมินค่าตัวของ Dan ในปี 2023 อยู่ที่ $1,700,000 USD หรือประมาณ 60 ล้านบาท!

รายได้ทั้งหมดของเค้าเกิดขึ้นจาก Digital Products/ Business และเค้าจัดการธุรกิจทั้งหมดด้วยตัวเองผ่าน software พวก no-code tools ทำ automation จัดการงานที่มันซ้ำๆ เช่น การ enroll นักเรียนเข้าคอร์ส หรือการออกใบเสร็จ PDF ส่งให้ลูกค้า

และ future of work ในนิยามของ Dan คือ Digital Business ที่คนๆเดียวก็รันได้

One-Person Business Model

Business คือการทำในสิ่งที่เราชอบและได้แก้ปัญหาให้คนอื่นในเวลาเดียวกัน

Dan บอกว่ามีอยู่สองเส้นทาง (paths) ในการสร้าง One-Person Business

  1. Skill-based business
  2. Development-based business

เส้นทางแรกเน้นไปที่การพัฒนา skills มี creators หลายคนมาทางนี้ สองปีที่ผ่านมาแอดก็เลือกทางนี้เหมือนกัน ตัวอย่างเช่น DataRockie เพจที่เราสอนเรื่อง data science skills เป็นหลัก

Learn the skills, Teach the skills, and Monetize the skills.

แต่นี้ไม่ใช่ทางที่ Dan อยากแนะนำเท่าไหร่ เค้าเลยเสนอเส้นทางที่สองโฟกัสที่ The Eternal Markets (self-actualization) ตลาดนี้แบ่งเป็น 4 หัวข้อย่อยๆ คือ

  1. Health
  2. Wealth
  3. Relationship
  4. Happiness
💡
ถ้า Development-Based Business ของเราสามารถตอบโจทย์ 4 เรื่องนี้ได้ Dan บอกมาถูกทางแล้ว! นี่คือตลาดที่สร้างรายได้ให้กับ creators เยอะที่สุด

Get Results for Yourself

เส้นทางที่สามคือ Both = Skill + Development Based Business

หาปัญหาที่เราต้องการจะแก้ เรียนสกิลที่จะแก้ปัญหานั้น แก้ปัญหาด้วยตัวเองให้ได้ Get Results for Yourself แล้วเอาความรู้และประสบการณ์ของเราไปสอนคนอื่นๆต่อ

ช่วยคนอื่นให้เข้าถึง 1 ใน 4 eternal needs - สุขภาพดีขึ้น หาเงินได้มากขึ้น ความสัมพันธ์ดีขึ้น มีความสุขในชีวิตมากขึ้น

และนี่คือ Business Model ที่ Dan Koe เสนอ และเป็นโมเดลที่ส่วนตัวเค้าคิดว่า work ที่สุดด้วย

ส่วนตัวแอดเชื่อในโมเดลนี้เหมือนกัน แต่ไม่เคยหาคำอธิบายมันได้เลย 555+ พอเจอ Dan คือมองโลกไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

The One-Person Business Model ของ Dan Koe มีอยู่ 4 แกน

  • Goals → Brand
  • Problems → Content
  • Systems → Product
  • Benefits → Marketing

ปัญหาในโลกนี้มีให้เราแก้เยอะมาก เอาจริงหันหน้าไปทางไหนก็เจอแต่ปัญหา data science, web development, software, photography, copy writing, video editing etc.

Find Your Passion

ถ้าเราสอนเพื่อนเราให้ทำอะไรซักอย่างหนึ่งได้ จะเป็นเรื่องเล็กๆอย่างเช่นการถ่ายรูปให้สวยด้วย smartphone แค่นี้เราก็เริ่ม business ของตัวเองได้แล้ว

เรียน skill → แก้ปัญหา → สร้าง product → ขาย product ช่วยคนอื่นให้แก้ปัญหานั้นๆได้

เงินคือผลพลอยได้ที่ได้จากการทำสิ่งที่เราชอบ สิ่งที่เราชอบเรียกว่า business

Business = Busy + Ness สิ่งที่ทำให้เรายุ่งได้ทั้งวัน ทำงานแบบ happy ไม่เหนื่อย หรือต้องบอกว่าเหนื่อยแต่มันโคตร happy 😁

หาปัญหาที่เราอยากจะแก้ จะเล็กหรือใหญ่ไม่ได้สำคัญ แล้วเปลี่ยนมันเป็น business

สร้าง Minimum Viable Offer ส่งมอบคุณค่าให้ลูกค้าที่ต้องการใช้ digital products ของเรา Seth Godin เขียนในหนังสือ This is Marketing ว่าตอนเริ่มต้นธุรกิจ พยายามหาลูกค้า 10 คนแรกให้เจอก่อน

Start small เก็บ real feedbacks และ iterate ธุรกิจของเราให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้าสิบคนนั้นอย่างเต็มที่ ทำให้ดี ทำให้เค้าประทับใจ แล้วเดี๋ยวเค้าจะช่วยบอกต่อธุรกิจของเราเอง

Duck Philosophy

ปี 2020 แอดตัดสินใจลาออกมาทำ One-Person Business ช่วง COVID ระบาดใหม่ๆ แบบไม่มี framework หรือ model ใดๆให้ทำตามเลย

ลองผิดลองถูกมาเรื่อยๆ จนตอนนี้มีโมเดลที่สามารถสร้างรายได้เดือนละไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท ถึงแม้ระบบของเราจะยังไม่ perfect แต่มันก็คือจุดเริ่มต้นที่ดีเลย 😁

Duck Philosophy เกิดขึ้นมาเพื่อแชร์ความรู้ด้าน business, marketing, product และทักษะอื่นๆที่เราได้เรียนในช่วงสองปีแบบเข้มข้น ล้มมาเยอะ เจ็บมาเยอะ 555+

จากลูกค้าคนแรก เพิ่มเป็น 100 คน → 1,000+ คน → และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกวัน

Dan Koe บอกว่าจากประสบการณ์ของเค้า One-Man Business ที่หาเงินได้เยอะๆส่วนใหญ่เป็น Generalist ไม่ใช่ Specialist ไม่ใช่แค่ Dan แต่แอดก็เห็นภาพแบบเดียวกัน

รู้กว้าง > รู้ลึก ยิ่งรู้หลายด้าน โอกาสในชีวิตยิ่งเปิดกว้าง

และนี่คือปรัชญาที่เป็นแก่นของ Duck Philosophy ในภาษาไทยหาคำที่ใกล้คำว่า generalist ไม่ได้เลย ถ้ามีหนึ่งคำที่หลายคนนึกถึง คงเป็นคำว่า "เป็ด"

แต่ไม่ใช่เป็ดธรรมดา พวกเราคือเป็ดสกินทอง ที่พัฒนาตัวเองตลอดเวลา จะได้ช่วยคนอื่นได้มากขึ้น ยิ่งเราช่วยคนได้มากขึ้นเท่าไหร่ พลัง leverage ของเราก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

💡
One-Person Business คือการลงแรงวันนี้ให้เราเก่งขึ้น และส่งต่อความรู้ที่มี "work towards the better future of yourself"

ตั้งแต่รู้จัก Dan Koe แอดเข้าไปนั่งฟัง YouTube เค้าทุกวันเลย ไฟมาแล้ว 555+

แอดคิดว่าเราทุกคนสามารถเป็นเหมือน Dan Koe ได้เลย สร้าง One-Person Business ได้ทำงานที่เราชอบทุกวัน work less, earn more, enjoy life ตามสโลแกนของ thedankoe

เป้าหมายของเราคือช่วยเพื่อนๆสร้างรายได้ 1 ล้านบาทภายใน 3 ปี ใช้เวลาทำงานแค่ 2-3 ชั่วโมงต่อวัน เหมือนจะยาก? แต่ถ้าเรา break ปัญหานี้ให้เล็กลง ทุกคนมีโอกาสทำมันได้แน่ๆ

สร้าง digital product มูลค่า 1,000 บาท ขายให้ได้ 1,000 คน สร้างรายได้หนึ่งล้านบาท สิ่งที่เราต้องทำ ก็แค่ learn how to duck พัฒนาตัวเองทุกวัน

ถ้าใครอยากอัพสกิล One-Man Business กด subscribe เข้าร่วมกับ Duck Philosophy ได้เลย แล้วพบกันใน newsletter ฉบับหน้านะครับ แอดจะแบ่งเวลามาเขียนทุกสัปดาห์ 😁